โอ๋ หทัยรัตน์ เจริญชัยชนะ ศิลปะคือส่วนหนึ่งของชีวิต

ราได้เห็น โอ๋-หทัยรัตน์ เจริญชัยชนะ จากหลากหลายผลงาน ไม่ว่าจะเป็นงานดนตรี งานแสดงสไตลิสต์ นักเขียน นักวาดภาพประกอบ ฯลฯ แต่ต้องยอมรับว่าสิ่งที่อยู่คู่กับเธอมาตลอดจนกลายเป็นตัวตนที่โดดเด่นคงจะหนีไม่พ้น “งานศิลปะ” ไม่ว่าเธอจะร่วมงานกับแบรนด์แฟชั่นหรืองานเขียน ภาพวาดของเธอมักจะบ่งบอกถึงความสนุกสนาน สดใส ในแบบที่หลายคนหลงรัก

ล่าสุดเราผ่านไปเที่ยวเล่นที่คลองโอ่งอ่าง เดสทิเนชั่นแห่งใหม่ที่ชาวกรุงเทพฯ ภูมิใจ และก็ได้สะดุดตากับตึก 4 ชั้นที่มีภาพวาดสีสดใสกับสไตล์ที่เราคุ้นตา ใช่ค่ะ…นี่คือผลงานชิ้นล่าสุดของโอ๋-หทัยรัตน์ เจริญชัยชนะ

เรานัดคุยกับเธอเกี่ยวกับผลงานเพ้นต์ตึกที่คลองโอ่งอ่าง แต่ในเมื่อเรามีโอกาสได้เจอกันแล้ว บทสนทนาจึงเลยเถิดสนุกสนานไปถึงเรื่องชีวิตที่ก้าวเดินคู่กันไปพร้อมกับงานศิลปะของเธอ รับรองว่าเรื่องที่เราพูดคุยกันนี้ นอกจากสนุกแล้ว ยังได้สาระใจความที่น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้คุณได้ไม่มากก็น้อยอีกด้วย

คลองโอ่งอ่าง สตรีทอาร์ต โปรเจ็กต์ขนาดใหญ่ กับพื้นที่สร้างแรงบันดาลใจให้หลายชีวิต

โปรเจ็กต์คลองโอ่งอ่าง สตรีทอาร์ต เป็นโปรเจ็กต์ปรับภูมิทัศน์ของคลองโอ่งอ่าง มีมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ช่วงกลางปีที่ผ่านมามีคนจากกทม. โทรมาหาโอ๋ตอนที่ยังอยู่เยอรมนีว่าอยากได้อาร์ติสท์มาทำงานเป็นสตรีทอาร์ตสองฝั่งของคลองโอ่งอ่าง โอ๋ได้ฟังเขาเล่าว่าอยากให้ตรงนี้เป็นที่ที่ปรับแล้วมีศิลปะเข้ามาให้ชุมชนได้เห็น ให้คนได้มาดูแล้วรู้สึกว่าศิลปะไม่ใช่เรื่องไกลตัว พอเขาเล่าโปรเจ็กต์ให้ฟังก็รู้สึกสนใจ ทำให้อยากเป็นหนึ่งในศิลปินที่ได้มีโอกาสทำโปรเจ็กต์นี้เหมือนกัน แต่ว่าตอนนั้นติดปัญหาวิกฤติโควิด-19 อยู่ที่เยอรมนีก็เลยทำไม่ได้ ซึ่งก็เสียดาย

จนกระทั่งปลายปีที่แล้วโอ๋กลับมาเมืองไทยเพื่อมาทำงาน กทม.ก็ติดต่อมาอีกที ช่วงนั้นยังกักตัวอยู่ที่โรงแรมอยู่เลย เขาบอกว่ามันจะมีเฟส 2 ซึ่งเป็นตึกทางด้านหน้าที่ติดถนน สะพานดำรงสถิต ยังมีตึกที่ไม่ได้วาดอยู่ 2-3 ตึก สนใจไหม ซึ่งก็ตอบตกลงทันทีเพราะอยากทำตั้งแต่แรกแล้ว กทม.บอกว่างานตรงนี้ส่งผลต่อคนที่เดินผ่านไป-มา คนทั่วไป เด็กๆ นักศึกษา เพราะเขาได้มาเห็นการทำงานของศิลปินจริงๆ ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ ซึ่งตอนโอ๋มาทำงานก็ได้พิสูจน์ว่าเป็นเรื่องจริง ทำให้คนที่เขาไม่รู้ว่าศิลปะทำงานกันยาก-ง่ายแค่ไหน หรือทำยังไง ได้เห็นจริงๆ บางคนมายืนดูครึ่งวันเลยนะว่าเราทำงานกันยังไง รู้สึกว่าเป็นอะไรมากกว่าที่จะเป็นผนังสวยๆ สีสันสดใส โอ๋ว่ามันเป็นผนังที่ให้แรงบันดาลใจผู้คนได้ด้วย

 “น้ำ” คือคอนเซ็ปต์ของการเล่าเรื่อง

เฟสแรกเขาจะเล่าที่มาของคลองโอ่งอ่าง ถ้าเดินดูจะเห็นว่ามีการเล่าที่มาว่าที่นี่เคยเป็นมายังไง แถวนี้เคยขายอะไร เลยมาคิดว่ายังเหลืออะไรที่โอ๋จะถ่ายทอดคลองโอ่งอ่างนี้ได้บ้าง จนกระทั่งมาคิดว่า จริงๆ แล้วหัวใจหลัก เส้นเลือดใหญ่คือคลองตรงนี้แหละ โอ๋ว่าคนกรุงเทพฯ เราก็บ่นกันนะว่าคลองเน่า อยากเห็นคลองใสๆ เวลาไปญี่ปุ่น เกาหลี จะเห็นคลองที่พาพ่อ แม่ ลูกมาเดินเล่นได้ ซึ่งเราไม่ค่อยมีแบบนั้น โอ๋ก็เลยมองว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องน้ำ แล้วอาม่าที่อยู่ในชุมชนนี้ก็เคยเล่าให้ฟังช่วงที่โอ๋มาวาดรูปว่าตอนอาม่าเด็กๆ ที่ที่เรานั่งอยู่ตรงนี้เป็นน้ำ เป็นหลังบ้านของคน ของชุมชนแถวนี้ เขาเปิดหลังบ้านมาจะกระโดดลงน้ำ อาบน้ำ ซักผ้า เล่นน้ำกัน คลองเส้นนี้เป็นที่คมนาคม เป็นการขนส่ง เป็นเส้นเลือดใหญ่จริงๆ ก็เลยพูดเรื่องน้ำค่ะ

งานของโอ๋เริ่มจากออกแบบตึกใหญ่ 4 ชั้นที่พูดเรื่องชีวิตเกิดมาจากน้ำ ถ้าดูดีๆ จะมีน้ำ มีทั้งดอกไม้ ต้นไม้ มนุษย์ สัตว์ และยุง (หัวเราะ) อันนี้เป็นกิมมิกของโอ๋ อยากให้มันตลกนิดหนึ่งก็เลยเพิ่มยุงลายเข้าไป แต่จริงๆ ก็แอบคิดว่าไม่ว่าคลองจะอยู่ที่ไหน ประเทศไทยก็เป็นประเทศที่มียุงอยู่แล้วล่ะ พอออกแบบตรงนั้นแล้ว ทีนี้ก็เป็นผนังที่เล็กลงมา โอ๋คิดว่าเรื่องน้ำเนี่ย เราสามารถพูดโดยไม่มีน้ำบ้างได้ไหม เลยออกแบบให้เป็นแอ็กชั่น รูปนี้โอ๋เรียกว่าซีโร่ กราฟิตี้ การไร้ซึ่งแรงดึงดูด เหมือนเราลอยอยู่ในน้ำ แล้วเอาคอนเซ็ปต์เรื่องน้ำมาใช้ในแอ็กชั่นอื่นๆ ทุกอย่างจะลอยหมดเลย มีฟองของน้ำ ฟองอากาศ ทั้งสองตึก ถ้าดูดีๆ จะเห็นว่าซ่อนอะไรไว้ในนั้น

ความท้าทายในงานสเกลใหญ่ และน้ำใจไมตรีที่ได้รับ

ปัญหาแรกที่พบคือเนื่องจากเป็นเฟสที่ 2 งบที่เขาตั้งไว้แต่แรกได้ใช้ไปหมดแล้ว สำหรับสปอนเซอร์ เขาก็สปอนเซอร์กันไปเฟสแรกแล้ว ของโอ๋เป็นเฟส 2 เลยมีปัญหาในเรื่องงบในการทำงาน เพราะว่างานนี้ถ้าพูดถึงตัวโอ๋เองไม่ได้มีค่าใช้จ่าย ตั้งใจมาช่วยชุมชน แต่ว่าการทำงานมีเรื่องสี มีเรื่องนั่งร้าน มันไม่ใช่เงินน้อยๆ แล้วต้องมีทีมงานที่มาจากโคราช ทุกคนช่วยกันด้วยใจล่ะค่ะ แต่ว่ามีค่าใช้จ่ายอื่นๆ โชคดีมากที่โซดาสิงห์เล็งเห็นว่าการทำอะไรเพื่อชุมชนมันดีต่อสังคมเลยสนับสนุน คือช่วงก่อนปีใหม่เป็นช่วงที่อะไรทุกอย่างก็ด่วน และยังเป็นช่วงโควิด-19 แต่ยังมีคนที่เล็งเห็นประโยชน์ส่วนรวมแล้วก็ชุมชน โอ๋ขอบคุณมากจริงๆ ที่โซดาสิงห์ได้เล็งเห็น

ส่วนการทำงาน อันนี้ถือเป็นสเกลใหญ่จริงๆ ความท้าทายคือหนึ่ง กทม.บอกโอ๋ว่าขอวาดแค่ตึกชั้นล่าง เนื่องจากข้อหนึ่งเลยคือมีสายไฟ เราทำงานลำบากแน่นอน มันขึ้นไม่ได้ ข้อสองอยู่ริมถนน การที่เอารถเครนที่เราสามารถขึ้นไปแล้ววาดรูปได้ มันเอามาวางไม่ได้ เพราะว่าติดถนนใหญ่ เพราะฉะนั้น การทำงานลำบาก แต่โอ๋รู้สึกว่าไหนๆ ก็ได้ตึกนี้แล้ว ไหนๆ ก็ได้ทำแล้ว เลยอยากทำให้มันสุด ไม่อยากรู้สึกทุกครั้งที่ขับรถผ่านมาว่าทำไมวันนั้นเราไม่สู้ เลยบอกกทม. ว่าขอสู้สักตั้ง ขอหาวิธีแบบยังไงก็ได้ให้ทำได้ทั้งตึกทั้งสองด้าน แล้วก็ลุยเรื่องนี้ เรื่องนี้คือเรื่องที่ยากที่สุด ไม่ใช่เรื่องออกแบบ เรื่องนั้นโอ๋นั่งทำในโรงแรมตั้งแต่ตอนกักตัว 14 วัน ก็ออกแบบเสร็จแล้วค่ะ

ต้องบอกก่อนว่างานที่ขึ้นนั่งร้าน 4 ชั้น โอ๋ไม่ได้เป็นคนวาดคนเดียว แต่ว่าทีมศิลปินจากโคราชและน้องๆ เพาะช่างมาช่วยกัน เพราะว่าถ้าทำคนเดียว 7 ปีก็ไม่เสร็จ (หัวเราะ) มันใหญ่มาก ทำงานยาก และต้องแข่งกับเวลา โอ๋เลยให้พี่ๆ ศิลปินโคราชมาช่วยดู แล้วพี่เขามีประสบการณ์เคยขึ้นนั่งร้าน เคยวาดตึกใหญ่ และที่สำคัญ กทม. และเขตช่วยมากๆ เลย อย่างเช่นเรื่องสายไฟ ทำยังไง ถ้าขึ้นนั่งร้านไปแล้วโดนสายไฟนี่คือจบกันเลยนะ เพราะฉะนั้นทางเขตและกทม. เลยประสานกับทางการไฟฟ้าให้มาช่วยพันสายไฟให้ แล้วก็ต้องมีการขึ้นนั่งร้าน นั่นคือปัญหาทั้งหมดที่เกิดกับการทำงาน ซึ่งใช้เวลากับการขึ้นนั่งร้าน การจัดการพวกนี้เกือบ 5 วัน จริงๆ แพลนไว้ว่าจะเสร็จภายใน 10 วันในการวาดรูป แต่ 5 วันเสียไปแล้ว เพราะฉะนั้นเราต้องเร่งเพราะว่าปิดปีใหม่ ปัญหาคือทีมศิลปินที่วาดรูปต้องกลับโคราชก่อนปีใหม่ แล้วนั่งร้าน เราไม่สามารถทิ้งไว้ได้เพราะไม่มีคนเฝ้า ของอาจหายได้ มีเรื่องให้แก้ปัญหาเยอะมาก แต่ก็ผ่านมาได้ อีกเรื่องที่โอ๋ประทับใจมากๆ เลยคือช่วงการทำงาน เจ้าของบ้านดูแลพวกเราเหมือนลูกเหมือนหลาน เขาไม่ได้เป็นแค่เจ้าของผนังที่เรามาวาด อย่างคุณลุงตรงตึกที่โอ๋วาด โอ๋บอกว่าคุณลุงขา โอ๋ต้องใช้น้ำในการวาดรูป คุณลุงมาเปิดก๊อกหน้าบ้านให้ใช้น้ำทุกวัน มาอำนวยความสะดวก เอาขนมมาให้ เดินมาถามทุกเย็น เป็นอย่างไรบ้าง เหนื่อยไหม รู้สึกว่าเราได้รับอะไรอย่างนี้แล้วเป็นประสบการณ์ที่ดีมากค่ะ และต้องขอขอบคุณชุมชนที่นี่จริงๆ ทุกคนน่ารักมาก

การตีโจทย์ที่หลากหลายสไตล์โอ๋

โอ๋เป็นคนทำงานหลากหลาย ทำมาเกือบทุกอย่าง หลายมีเดีย หลายแบบ หลายสไตล์ โชคดีมากที่โอ๋เป็นเด็กศิลปากร แล้วเรียนโฆษณามา เพราะสิ่งที่เราโดนปลูกฝังคือการทำงานกับโจทย์ ยกตัวอย่าง โอ๋ได้โจทย์มาว่าให้วาดภาพประกอบหนังสือเล่มหนึ่ง สิ่งแรกที่ทำคืออ่านหนังสือเล่มนั้น ทำความเข้าใจ รู้ว่าหนังสือเล่มนี้ต้องการอะไร ตอบอะไร ต้องการให้คนอ่านรู้สึกแบบไหน หรืออย่างออกแบบลายผ้า สิ่งแรกที่ต้องรู้คือทาร์เก็ตกรุ๊ปของเราคือใคร เราทำงานให้แบรนด์ไหน แล้วแบรนด์นั้นคาแร็กเตอร์เขาเป็นอย่างไร สามารถเอาคาแร็กเตอร์เราไปเบลนด์กับคาแร็กเตอร์ของแบรนด์นั้นๆ แล้วทั้งสองอย่างไปด้วยกันได้อย่างไร นั่นคือการทำงานที่โอ๋ตอบโจทย์ค่ะ แต่อย่างตึก ทางกทม. เปิดกว้างมาก เราก็ให้โจทย์ตัวเองว่าอยากจะพูดเรื่องอะไร อยากจะให้คอนเซ็ปต์รูปเรามีความสัมพันธ์กับชุมชนอย่างไร นั่นคือวิธีการคิดงานของโอ๋ เพราะฉะนั้นแต่ละงานก็คิดต่างกัน

เสน่ห์ของงานศิลป์

โอ๋ว่างานศิลปะไม่มีผิด ไม่มีถูก รู้สึกว่าเป็นงานของจินตนาการ มันไปได้ไกลมากๆ แล้วเปิดกว้าง สร้างสุนทรียศาสตร์ให้คน โอเค ศิลปะอาจไม่ได้สวยงามอย่างเดียว บางคนก็นำศิลปะมาพูดเรื่องการเมือง หรือพูดอะไรที่เป็นเรื่องหนักๆ เรื่องความกดดัน เรื่องอะไรอย่างนี้ แต่ในที่สุดแล้วคือการที่เราได้พูดเรื่องบางเรื่องในอีกด้านหนึ่ง เรื่องหลายๆ เรื่อง มีวิธีพูดหลายๆ ด้าน ศิลปะคืออีกด้านของการพูดอะไรบางอย่าง ศิลปินอยากจะพูดเรื่องอะไรก็สามารถนำเสนอออกมาได้ในแบบที่เขาอยากจะนำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเสียง แสง ภาพ อย่างของโอ๋จะเป็นเรื่องการวาดรูป ก็จะสื่อสารกับคนด้วยภาพ ซึ่งพองานเสร็จแล้ว เสน่ห์อย่างหนึ่งคือปกติแล้วโอ๋จะไม่อธิบายงานว่าคืออะไร อยากใช้ประสบการณ์ของผู้ดู ผู้พบเห็นมาคิดต่อเองมากกว่า เพราะฉะนั้นไม่ว่างานของโอ๋จะมีคอนเซ็ปต์อะไร งานมันสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้ด้วยประสบการณ์ของคนที่ดู ให้เขาตัดสินใจเองว่างานนี้พูดเรื่องอะไร ให้เขาคิดเอง โอ๋ว่าเสน่ห์มันอยู่ตรงนี้ ไม่ได้จบที่ว่า ก ไก่ คือ ก ไก่ สองคือสอง แต่จะมีหลายพันล้านความคิดในรูปนั้นแตกต่างกัน

โอ๋คือรถขายผักศิลปะ

โอ๋ทำงานศิลปะมาตั้งแต่ก่อนวาดรูปได้ ชอบวาดรูปมาตั้งแต่เด็ก เรียนศิลปะ ทำงานเพลง ทำงานเพลงโอ๋ก็เรียกว่าศิลปะนะ ไม่ว่าจะเป็นศิลปะการแต่งเพลง ศิลปะการเล่นคอนเสิร์ต หรือศิลปะการทำมิวสิกวิดีโอ รวมถึงการเขียนหนังสือ ฯลฯ โอ๋อยู่กับศิลปะมานาน ไม่สามารถแยกตัวกับศิลปะได้ ถ้าให้เทียบก็เหมือนรถกระบะขายผัก โอ๋เป็นรถกระบะขายผักศิลปะ แล้วในดีเทลการขายผักของโอ๋ บางถุงก็เป็นเพลง บางถุงก็เป็นแฟชั่น เพราะฉะนั้นมันขับเคลื่อนชีวิตโอ๋ยังไง มันขับเคลื่อนแบบนี้แหละ และโอ๋เชื่อว่าจะเป็นแบบนี้ไปจนวันตาย อาจเปลี่ยนรูปแบบไปบ้าง ในอีก 15 ปีข้างหน้า โอ๋อาจจะวาดผนังไม่ไหว ปีนไม่ไหวแล้ว เปลี่ยนรูปแบบไปเป็นอย่างอื่น ซึ่งก็พร้อมและตื่นเต้นกับมันนะ ไม่รู้เหมือนกันว่าในอนาคต รูปแบบงานศิลปะกับโอ๋มันจะเป็นไปในรูปแบบไหน อาจไปทำซาวนด์ แสง สี เสียง ก็ไม่รู้เหมือนกัน

เพราะไม่เคยกลัวอาย และยอมรับความกังวล

ธรรมชาติของโอ๋เป็นคนไม่ค่อยกลัวผิด ไม่เคยกลัวหน้าแตก ไม่เคยกลัวไม่รู้ เพราะเป็นคนชอบถาม ไม่รู้ก็จะบอกว่าไม่รู้ จะถามเลยว่ามันคืออะไรเหรอ อธิบายให้ฟังหน่อยสิ เป็นคนไม่กลัวอายค่ะ ทุกวันนี้เวลาได้โจทย์ใหม่ๆ จะเซย์เยสก่อนเลย พอฟังแล้ว หูย น่าทำ ก็จะตกลงทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อน ทั้งที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำยังไง แล้วจะมานั่งคิดว่าจะทำยังไงดี สามารถไปถามใครได้บ้าง สามารถศึกษาได้ไหม แต่ถามว่ากังวลไหม ถามใหม่ดีกว่าว่าเคยไม่กังวลไหม (หัวเราะ) คิดว่าไม่เคย ทุกงาน ไม่ว่าจะงานเล็ก งานใหญ่ งานตึก 4 ชั้น งานเล็กแค่ฝ่ามือ โอ๋กังวลทุกงาน กังวลไปหมดล่ะค่ะว่าเราจะสามารถพัฒนาตัวเองในงานชิ้นต่อๆ ไปได้แค่ไหน งานนี้เราจะใช้ประสบการณ์จากงานที่แล้วมาช่วยพัฒนาในฝีมือเราเองได้ไหม อย่างงานที่ตอบโจทย์ลูกค้าก็จะกังวลว่าจะสามารถคิดแบบที่ลูกค้าต้องการได้ไหม สามารถช่วยให้สินค้าเขาขายดีขึ้นได้ไหม แม้แต่กังวลเรื่องเล็กๆ อย่างเช่น สีนี้มันเข้ากับสีนี้ไหม ลองสีใหม่ๆ แล้วจะดีไหม แต่โอ๋เชื่อว่าถ้าไม่มีความกังวล งานโอ๋จะไม่พัฒนา การทำอะไรชิลล์ๆ คือการทำอะไรซ้ำๆ คือเพลย์เซฟ อยู่ในโซนของตัวเอง โอ๋ไม่ชอบ ชอบอะไรที่ท้าทายตัวเอง ตื่นเต้น เพราะฉะนั้นโอ๋ Appreciate ความกังวล ไม่มีปัญหา แต่ความกลัวบอกเลยว่าไม่ค่อยมี

สำหรับวิธีแก้ความกังวลก็คือต้องทำมันไป ทุกงานเลยนะ และไม่เคยมีอันไหนที่ไม่ต้องแก้ไขสถานการณ์ ไม่ต้องแก้ปัญหา ทุกอันจะต้องมีปัญหามาให้แก้เสมอ ทุกวันนี้โอ๋ยังขอบคุณลูกค้าทุกๆ คนที่ทำให้ได้แก้ปัญหา ทำให้ได้เรียนรู้กับอะไรที่ไม่ได้มีในโรงเรียน มันคือชีวิตจริง คือการแก้ปัญหากับการทำงาน ทำให้เราเรียนรู้ว่าจะต้องแก้ยังไง

ความสบายคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด

แต่ก็มีสิ่งที่โอ๋กลัวอยู่อย่างหนึ่งคือความสบาย โอ๋เคยกลัวว่าพอเราทำงานมากๆ ถึงจุดหนึ่ง ดีลกับลูกค้าง่ายขึ้น คนรู้จักเรา ลูกค้าเข้ามาหา ทำให้เราสบายมากขึ้น ทำให้ทำอะไรก็ง่ายมากขึ้น ความสบายพวกนี้แหละที่ทำให้โอ๋กลัวว่าจะติดนิสัย แล้วทำให้ความกระตือรือร้นเราน้อยลง อันนี้เป็นจุดผลักดันให้โอ๋เคยหนีไปอยู่เยอรมนีช่วงหนึ่ง เคยไม่ไหวแล้ว เราจะมีนิสัยแบบนี้ไม่ได้ โอ๋ชอบความเป็นเด็กของโอ๋ หมายถึงตื่นเต้นกับงานทุกงานที่ได้รับโจทย์ อยากทำงาน มีอยู่ช่วงหนึ่งได้รับงานจนทำเหมือนเป็นรูทีน ซึ่งโอ๋เกลียดตัวเองแบบนั้น นั่นคือความกลัวที่โอ๋รู้สึก แล้วไม่อยากอยู่บนความกลัวนี้ กลัวว่าในที่สุดวันหนึ่งถ้ามันหายไปแล้วจะทำยังไง กลัวที่จะเป็นคนที่คิดแบบนี้ เลยทิ้งทุกอย่างแล้วไปเยอรมนี และช่วงที่โอ๋ไม่อยู่นี่แหละ เป็นช่วงที่ทดลองงานอะไรใหม่ๆ ได้ลองวัสดุใหม่ๆ ได้ไปเห็นงานศิลปะของคนอื่น ได้ไปเสพงานอื่นๆ ที่เราไม่ได้มีเวลาตอนทำงานเยอะๆ เราไม่ได้มีเวลาเสพงานศิลปะมากเท่าไหร่ พอไปเห็นงานอื่น ก็ได้แรงบันดาลใจกลับมา ในที่สุดสิ่งที่โอ๋ได้คือความกระชุ่มกระชวย เราเหมือนกดปุ่มรีสตาร์ทใหม่ ทำให้เราอยากจะกลับมา กล้าที่จะนำเสนอลูกค้าว่าลองทำอะไรแบบนี้ไหม

ไม่ลงมือทำก็ไม่มีวันเจอตัวเอง

เป็นเรื่องละเอียดอ่อนเหมือนกันนะว่าเด็กๆ ที่เพิ่งเริ่มทำงานเนี่ย จะรู้จัก จะค้นหาตัวเองเจอได้อย่างไร นั่นคือคำถามเหมือนกัน อย่างโอ๋ทำงานมา 20 กว่าปีแล้ว รู้แล้วว่าสไตล์เป็นยังไง ถ้าย้อนกลับไป โอ๋โชคดีในความโชคร้าย คือเอาจริงนะ โอ๋ไม่ใช่คนที่สกิลวาดรูปเก่งเลย เพราะฉะนั้น ในความโชคร้ายที่วาดรูปไม่ได้เก่งเลยนั้น ความโชคดีคือทำให้ข้อจำกัดในการเริ่มวาดรูปในวันนั้นมันน้อย แล้วก็วาดแบบที่ฉันชอบ พอเราวาด สร้างประสบการณ์เข้าไปได้เรื่อยๆ ก็ทำให้มีคาแร็กเตอร์มากขึ้น คนเริ่มเห็นคาแร็กเตอร์ของมันชัด แล้วก็โชคดีมาถูกทาง เป็นทางที่เราชอบด้วย นั่นคือวิธีการสร้างคาแร็กเตอร์ของโอ๋ แต่เด็กที่เพิ่งเริ่มต้น ถามว่าผมจะไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร ถ้า ณ จุดนี้ที่โอ๋ทำงานมา 20 กว่าปี ตอบได้เลยว่าทำบ่อยๆ ทำเยอะๆ ไม่ต้องรอ ถ้าคุณรอว่าเมื่อไหร่คุณจะมีคาแร็กเตอร์ของตัวเอง ไม่มีทางมีหรอก คุณต้องทำไปจนกว่าในที่สุดแล้วตัวตนของคุณมันจะออกมาเอง คุณอาจจะเริ่มต้นด้วยการก๊อปรูปของศิลปินที่คุณชอบ แต่อย่าติดกับมัน เราอย่าเป็นเบอร์สองเลย เราไม่มีทางไปตามเบอร์หนึ่งเขาได้ เขาไปไกลถึงไหนแล้ว เพราะเขาคิดเอง หว่านพืชของเขาเอง เราจะไปแบบนั้นมันไม่ได้ หาอะไรที่เป็นตัวคุณดีกว่า ไม่ว่าเราจะศึกษางานนั้นมากขนาดไหน แต่ในที่สุดแล้ว เราก็ไม่ได้คิดงานนั้นด้วยตัวเราเอง เราไม่รู้หรอกว่าภาพง่ายๆ ภาพหนึ่งที่ใช้สี่สีมาผสมกัน จริงๆ แล้ว กระบวนการคิดของเขาไม่ได้ง่ายแค่สี่สีนะ เขามีกระบวนการคิดที่เป็นเลเยอร์ของเขา ทำไมงานง่ายๆ พวกนี้ทั่วโลกยอมรับ มันคือเลเยอร์ในการคิดของเขา เพราะฉะนั้นไม่ใช่จุดจบว่าภาพสวยหรือเปล่า แต่มันคือที่มาของรูปนั้นว่าคุณมีแง่คิดอะไรในนั้น สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ขโมยกันไม่ได้ คุณจะก๊อปภาพเหมือนมากแค่ไหน แต่ในที่สุดคุณก็ไปต่อยอดไม่ได้ คุณไม่สามารถทำงานต่อในอนาคตได้ คุณไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงใช้สีแดง เขาอาจมีเหตุผลอะไรบางอย่างก็ได้ มันไม่ใช่แค่สีแดงสวยดี ไม่ใช่แค่นั่นอ่ะค่ะ

ไม่ใช่แค่ตอบโจทย์ แต่สนุกกับการนำเสนอไอเดียใหม่ๆ

ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าลูกค้ารู้จักเราแล้ว เอเจนซี่รู้จักเราแล้ว เขาก็จะเข้ามา ถ้าพูดถึงจุดนี้นะคะสิ่งที่โอ๋จะสามารถส่งกลับไปให้ลูกค้าไม่ใช่แค่รับโจทย์มาแล้วทำ ทุกวันนี้โอ๋จะชวนลูกค้าทำในสิ่งที่โอ๋คิดว่า เฮ้ย โอ๋ว่า ถ้าจะทำแค่ 3 เราลองทำถึง 7 เลยไหม โอ๋ก็จะเสนอไปว่าเราทำอันนี้ อันนี้ ด้วยดีไหม หลังๆ มานี่จะเป็นเกือบทุกงาน

โอ๋จะเป็นคนที่เล็กๆ โอ๋ไม่ ใหญ่ๆ โอ๋ชอบ (หัวเราะ) เป็นคนที่ไปเสนอลูกค้า บางทีลูกค้าอาจเป็นคนที่ไม่รู้ว่ารูปของเราไปอยู่ในอะไรได้อีกบ้าง ไปทำอะไรได้อีกบ้าง เพราะฉะนั้นเราก็สามารถจะให้ไอเดียเขาได้นะ ลูกค้าจะทำหรือไม่ทำ ไม่เป็นไร สมมติโอ๋ออกแบบรองเท้าคู่หนึ่ง เฮ้ย แทนที่จะออกแบบรองเท้าอย่างเดียว ทำกล่องด้วยไหม หรือทำกล่องที่มันเก็บได้จริงในบ้าน อันนั้นคือตัวอย่างที่วันนี้มันทำให้เราไม่ได้ตอบโจทย์ลูกค้าอย่างเดียว เราให้โจทย์ลูกค้าด้วยว่าสนใจไหม ลองเอาไปทำไหมคะ เท่าที่ผ่านมา 80% ลูกค้าซื้อไอเดียโอ๋ แล้วรู้สึกว่าไม่ได้ทำงานหนักขึ้น ไม่ได้ขอเงินมากขึ้นด้วย แต่มันทำให้เราได้ลองอะไรใหม่ๆ ดีจะตาย มีคนมาซัพพอร์ตด้วย

 อาชีพกับศิลปะ

ถ้าถามถึงตัวโอ๋ งานศิลปะของโอ๋มันคืออาชีพเลยนะ อย่างบางครั้งก็มีคนมาชวนไปเล่นซีรีส์ บางครั้งมีคนชวนไปทำเพลง อันนี้ถือว่าเป็นกิจกรรมของโอ๋ นอกเหนือจากการทำงานศิลปะ โปรเจ็กต์ไหนที่มันน่าสนุก ไม่ได้ตังค์ก็ได้ ไม่เป็นไร เพราะว่าเรามีอาชีพที่ค่อนข้างจะมั่นคง เพราะฉะนั้นสำหรับตัวโอ๋เอง งานศิลปะเป็นอาชีพที่มั่นคงได้

นางแบบ: หทัยรัตน์ เจริญชัยชนะ

สัมภาษณ์: กิ่งสุรางค์ อนุภาษ

ช่างภาพ: อิทธิพล พนาสุภน

สถานที่: คลองโอ่งอ่าง สรีทอาร์ต

ติดตามเรื่องราวของ “SomeoneStoryco” เพิ่มเติมได้ที่

Web : http://someonestory.co

Facebook : https://www.facebook.com/SomeoneStory.co/

Instagram : https://www.instagram.com/someonestory.co/

Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCnm6Li8Brk1QCyb9lBHrMEA

Twitter : https://twitter.com/someonestoryco

About the author

+ posts
0%