แพรวา-ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์ ล้มกี่ครั้งก็ยังลุกได้

พลังชีวิตและมุมคิดของสาวเสียงสวยที่ไม่เคยหยุดสานฝัน

บทพิสูจน์เป้าหมายของแพรวา-ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์ นักแสดงและนักร้องสาวมากความสามารถ คือกำลังใจที่เธอสร้างขึ้นมาจากตัวเอง นั่นทำให้ทุกครั้งที่ล้มระหว่างทาง แพรวาจึงสามารถลุกขึ้นมายืนใหม่ได้ทุกครั้ง อีกเหตุผลหนึ่งคือเธอไม่ดูถูกตัวเองและพยายามพัฒนาตัวเองอย่างไม่ย่อท้อ เพื่อทำลายขีดจำกัดของตัวเองให้น้อยลงทุกวัน สำหรับเส้นทางการมาเป็นนักร้องของสาวเสียงสวยคนนี้ก็ไม่ได้ง่ายเช่นกัน ก่อนที่จะแจ้งเกิดในเพลงรักติดไซเรน เพลงประกอบซีรีส์เรื่องดัง My Ambulance รักฉุดใจนายฉุกเฉิน เธอต้องผ่านความผิดหวังมาหลายครั้ง ตกรอบแรกในการออร์ดิชั่นมาแล้วหลายหน รวมถึงยังต้องผ่านงานแสดงและพิธีกรก่อนจะได้มาอยู่ในจุดที่ตัวเองฝัน สาวเสียงสวยเล่าว่าทุกครั้งที่ไปไม่ถึงเป้าหมาย เธอคิดเพียงแค่ว่า อาจยังไม่เก่งมากพอ ดังนั้นจึงต้องฝึกฝนตลอด และมองหาสนามใหม่ๆ เพื่อให้ตัวเองมีพื้นที่สำหรับฝึกฝน “หนูไม่ได้อยากเป็นดาราที่ร้องเพลงได้ แต่อยากเป็นศิลปินที่คนยอมรับในฐานะนักร้อง” แพรวาพูดกับเราด้วยน้ำเสียงที่มุ่งมั่นอย่างที่เธอเป็นมาตลอด

หนูอยากเป็นนักร้อง

ถึงแม้เราจะรู้จักแพรวาครั้งแรกในฐานะนักแสดงเลือดใหม่ของบ้านนาดาว แต่ความจริงแล้วแพรวามีความฝันมาตั้งแต่ยังเด็กๆ ว่าเธออยากเป็น “นักร้อง” “ตอนนั้นดูการ์ตูนเรื่องบาร์บี้ ทุกตัวละครในเรื่องเขาจะร้องเพลง ทำให้หนูรู้สึกว่าอยากเป็นนักร้อง เลยเริ่มเรียนร้องเพลง ซึ่งทุกครั้งที่ไปเรียนเขาจะให้กระโดดตบ แล้วตอนนั้นไม่เข้าใจว่าทำไปทำไม ก็เลยไม่ได้เรียนต่อ พอช่วงม.ปลายก็ทำวงดนตรีกับเพื่อน โดยหนูเป็นนักร้อง เวลามีงานโรงเรียนจะได้ขึ้นไปร้องเพลงตลอด แล้วก็มีโอกาสไปประกวดเดอะสตาร์ จำได้ว่าไปสมัครตอนตี 5 แต่ได้ร้องอีกทีตอน 1 ทุ่มเลย ร้องเสร็จก็ตกรอบค่ะ (หัวเราะ) การตกรอบครั้งนั้นทำให้เราต้องพัฒนาตัวเอง ระหว่างนั้นก็ร้องเพลงที่เวทีโรงเรียนไปก่อนเพื่อเป็นการฝึกตัวเอง จนได้มีโอกาสไปลองแข่งที่เดอะสตาร์อีกครั้งแล้วก็ยังตกรอบอีก แต่หนูก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร เพียงแต่คิดว่าลองไปประกวดเวทีอื่นๆ อย่าง AF ดีไหม หรือเราจะไปประกวดเป็นวงอย่าง Hotwave Music Awards เพราะเราก็มีวงดนตรี บางทีการร้องเดี่ยวของเราคงยังไม่แข็งแรงพอ ฯลฯ แต่ต่อมาพี่ๆ ทีมงานที่ทำเดอะสตาร์ก็ได้ทำ Hormones The Next Gen แล้วเขายังมีเบอร์เราอยู่ ก็เลยติดต่อชวนมาออร์ดิชั่นดู คราวนี้ได้เข้ารอบ และผ่านการคัดเลือกจนได้มาเล่น “ฮอร์โมนวัยว้าวุ่น ซีซั่น 2” รวมถึงได้ลองทำงานพิธีกรรายการ Game Of Teens และวันหนึ่งก็ได้รับการติดต่อมาว่าอยากให้ร้องเพลงประกอบซีรีส์เรื่อง My Ambulance รักฉุดใจนายฉุกเฉิน จำได้ว่าหนูยังไม่ได้ฟังอะไรเท่าไหร่ก็ตอบตกลงรับแทบจะทันทีค่ะ”

จากนักแสดง พิธีกร สู่การเป็นนักร้อง และการพิสูจน์ตัวเอง
“หนูว่าการได้เป็นนักแสดง พิธีกร ทำให้ได้เตรียมเรื่องของการแสดงออกและความกล้าค่ะ แต่พอเราเป็นนักแสดงมาก่อนที่จะมีผลงานเพลง ก็ต้องพิสูจน์ตัวเองอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะคนอาจมองว่าเราเป็น “ดาราร้องเพลงได้” แต่หนูไม่ได้อยากเป็นดาราที่ร้องเพลงได้ หนูอยากเป็นศิลปินที่คนยอมรับในฐานะนักร้องเลยต้องพัฒนาศักยภาพตัวเอง คอยดูว่ามาตรฐานเราถึงขั้นนักร้องหรือยัง หนูได้เรียนรู้ว่าการเป็นนักร้องไม่ง่าย มีความกดดันหลายอย่าง เช่น เราไม่ใช่แค่ต้องจำเนื้อเพลงแล้วร้องออกมาเท่านั้น แต่เราต้องถ่ายทอดอารมณ์ผ่านเสียงเพลงด้วย และการประสบความสำเร็จจากเพลงรักติดไซเรนอย่างมากก็กลายมาเป็นความกดดันที่เวลาไปร้องสดก็ต้องร้องออกมาให้ดีด้วย แต่อย่างตอนที่หนูร้องเพลงรักติดไซเรนเพี้ยน ก็ทำให้มาตั้งหลักใหม่ว่าต้องพัฒนาตรงไหนบ้าง ขีดเส้นใต้เลยว่าต้องพัฒนาตัวเองให้หนักกว่าเดิม ตอนนี้หนูฝึกวอร์มเสียงทุกวันให้แข็งแรง ซึ่งหนูจะวอร์มตอนเช้าวันละประมาณครึ่งชั่วโมงค่ะ”

ซิงเกิ้ลล่าสุด “เจอกันก็พัง ห่างกันก็ร้าย”
ผลงานชิ้นล่าสุดของแพรวาได้ออกมาให้ได้ชมและฟังกันแล้วคือเพลง “เจอกันก็พัง ห่างกันก็ร้าย” ซึ่งกว่าจะมาเป็นผลงานเดี่ยวชิ้นแรกของเธอ แพรวาต้องฟิตซ้อมอย่างหนักเพื่อทำงานชิ้นนี้ออกมาให้ดีที่สุด “ก่อนจะมาเป็นซิงเกิ้ลเพลงนี้ หนูรู้สึกกดดันนะคะ เพราะพอเพลงแรกประสบความสำเร็จมาก เพลงที่สอง คนน่าจะคาดหวังในตัวเรามากขึ้น ซึ่งหนูเลยต้องบอกตัวเองใหม่ว่าไม่ต้องกดดันตัวเอง แต่ทำให้ดีที่สุดก็พอ พัฒนาตัวเองเสมอทั้งร้อง ทั้งเต้น คอยเช็คเสียงตัวเองว่ายังเหมือนเดิมอยู่ไหม แต่ด้วยความที่เพลงนี้เป็นเพลงของหนูเอง เลยสามารถเลือกคีย์ที่เข้ากับตัวเราได้มากกว่าเพลงรักติดไซเรน อีกอย่างเป็นเพลงที่ทำขึ้นมาเพื่อให้เข้ากับสไตล์และแนวเพลงที่ชอบอยู่แล้วด้วยค่ะ ซึ่งเพลงนี้หนูได้มีโอกาสคุยกับพี่ฟองเบียร์ที่ช่วยแต่งเพลงให้ว่า อยากทำเพลงที่ไม่ต้องเต้นแล้ว เพราะว่าตอนรักติดไซเรนเต้นเยอะมาก อยากได้เพลงช้าบ้างและอยากเล่าในมุมผู้หญิง คือผู้หญิงเราไม่ได้อ่อนแอ เลยอยากมีเพลงที่เล่าแทนความรู้สึกว่าเราเข้มแข้งยังไง รู้สึกอย่างไรในเรื่องราวต่างๆ ความท้าทายในเพลงนี้คือต้องสื่ออารมณ์เยอะกว่าเพลงเร็ว ตรงนี้แหละค่ะที่ทักษะทางการแสดงช่วยได้เยอะ”

กำลังใจจากตัวเองคือสิ่งสำคัญ
อย่างที่คุยกันมาตั้งแต่ต้นว่าเส้นทางการเป็นนักร้องของแพรวาเองก็ไม่ใช่จะได้มาง่ายๆ แต่เพราะอะไรที่ทำให้เธอคนนี้ไม่หยุดฝัน “หนูว่ากำลังใจสำคัญที่สุด” แพรวากล่าว “หนูแค่รู้สึกว่าถ้าเรารักอะไรมากๆ ก็ต้องอยากจะทำสิ่งนั้นออกมาให้ดี ไม่ว่าเราจะล้มกี่ครั้งก็ตาม สุดท้ายแล้วถึงเราจะท้อแต่ก็ไม่ได้คิดจะหยุด เหมือนมีเส้นชัยของเรา วันนี้อาจท้อก็หยุดวิ่งก่อน แต่ว่าเราไม่เคยคิดล้มเลิกการแข่งครั้งนี้เลย แค่ขอพัก เพราะฉะนั้นกำลังใจจึงสำคัญ ถ้าเรารักสิ่งนี้มากๆ ยังไงก็จะทำมันให้ได้ และที่สำคัญกำลังใจนี้ต้องสร้างจากตัวเอง เพราะถ้าเราคอยรับแต่กำลังใจจากคนอื่น วันหนึ่งถ้าเขาเลิกชอบเรา เราก็หมดกำลังใจสิ ทำไมไม่สร้างกำลังใจจากตัวเอง เพื่อที่เราจะได้ดูแลตัวเองและขับเคลื่อนชีวิตไปถึงเป้าหมายได้ด้วยความมั่นคงค่ะ”